ลำแสงโฟตอน รักษามะเร็ง
บทนำ
โรคมะเร็งเป็นโรคที่ร้ายแรงและเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอับดับ 1 ของโรคไม่ติดต่อในประเทศไทย ซึ่งเป็นกันมากทั้งเพศชายและเพศหญิง หากตรวจพบมะเร็งตั้งแต่ในระยะแรกก็จะสามารถรักษาให้หายได้ วิธีการรักษาด้วยกันหลายวิธี สำหรับวิธีที่นิยมวิธีหนึ่งก็คือ.. รังสีรักษา ปัจจุบันวิทยาการทางด้านรังสีมีความก้าวหน้ามากขึ้น แพทย์สามารถวางแผนการรักษาด้วยรังสี โดยให้ปริมาณรังสีสูงเฉพาะที่ก้อนมะเร็ง ในขณะที่เซลล์ปกติข้างเคียงได้รับรังสีน้อย ทำให้เกิดผลแทรกซ้อนจากรังสีน้อยที่สุด ควบคุมโรคมะเร็งได้มากขึ้น
ข้อบ่งชี้
ลำแสงโฟตอน คือ
เป็นเทคโนโลยีหนึ่งในการรักษาทางด้านรังสีวิทยาใหม่ล่าสุดของโลก
มีข้อได้เปรียบที่สุดคือ ฉายรังสีสามมิติที่เป้าหมายอย่างแม่นยำ
และกำหนดเขตที่ฉายรังสีโดยอัตโนมัติ
เนื้อเยื่อที่ใกล้เคียงกับเนื้องอกได้รับปริมาณรังสีน้อยลง แต่ที่ตัวเนื้องอกจะได้รับปริมาณรังสีมากยิ่งขึ้น
ซึ่งสามารถทำลายเนื้องอกได้อย่างดี และภาวะแทรกซ้อนจากการฉายรังสีน้อยลง การใช้ฉายรังสีด้วยภาพ 3 มิติ (3D-CRT) ในการรักษาโรคมะเร็ง ทำโดยใช้รายละเอียดภาพจากระบบการวางแผนทางคอมพิวเตอร์
(CT scan & computer planning system)
ทำให้แพทย์ทราบรายละเอียดตำแหน่งของก้อนเนื้องอกและเนื้อเยื่อปกติที่อยู่โดยรอบ
ดังนั้นแพทย์จึงสามารถปรับปริมาณรังสีต่อเซลล์มะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพนอกจากนี้ยังสามารถหลีกเลี่ยงการที่เนื้อเยื่อปกติได้ ซึ่งจะทำให้การรักษามะเร็งมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ดังนั้นแพทย์จึงสามารถปรับปริมาณรังสีต่อเซลล์มะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพนอกจากนี้ยังสามารถหลีกเลี่ยงการที่เนื้อเยื่อปกติได้ ซึ่งจะทำให้การรักษามะเร็งมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การเตรียมตัวก่อนตรวจ
1. แต่งตัวด้วยเสื้อผ้า สะอาด หลวม
รวมทั้งรองเท้า สวมใส่/ถอดง่าย สะดวก ใช้เวลาในการแต่งตัวสวมใส่น้อย
เพราะในการรักษา บริเวณที่ฉายรังสี ต้องไม่มีเสื้อผ้าปกคลุม
จึงต้องมีการถอดเปลี่ยนเสื้อผ้า และเพื่อไม่เสียเวลามากเกินควร
เนื่องจากเป็นการใช้ห้องฉายร่วมกันในผู้ป่วยจำนวนมาก
2. รับประทานอาหาร
ดื่มน้ำได้ตามปรกติ หรือ ตามแพทย์ พยาบาลแนะนำ แต่อย่าให้อิ่มเกินไป
3. เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยก่อนเข้าห้องฉาย เพราะผู้ป่วยต้องอยู่ในห้องฉายแสงประมาณ
10-15 นาที หรือ
นานกว่านี้ในกรณีที่ใช้เทคนิคการรักษาที่ซับซ้อน
ขั้นตอนการตรวจ
1. กำหนดตำแหน่งเนื้องอก
โดยใช้เครื่องถ่ายภาพการแพทย์ เช่น เครื่อง CT เครื่อง MRI
2. กำหนดแผนการรักษา
โดยใช้ระบบการรักษาสามมิติ กำหนดทิศทางรังสีโฟตอนที่ยิงเข้าไปเนื้องอก
การคำนวณปริมาณรังสีที่ต้องการสำหรับบริเวณเนื้องอกและเนื้อเยื่อที่อยู่ระหว่างเนื้องอกและอวัยวะที่สำคัญ
เพื่อกำหนดแผนการรักษาที่ดีที่
3. รักษาที่ตำแหน่งอย่างแม่นยำ
เลือกใช้พลังรังสีตามขนาด ตำแหน่ง ความลึกของเนื้องอก รับรองรังสีสามารถยิงไปยังส่วนที่อยู่ลึกของเนื้องอกได้
ซึ่งจะทำให้เนื้อเยื่อมะเร็งบวมและแตกสลายไป
และเซลล์ที่ถูกกำจัดไปจะถูกเนื้อเยื่อปกติดูดซึมแบ่งย่อยและขับออกจากร่างกาย
ข้อดี
1. ปริมาณรังสีได้รวมจากหลายทิศทาง
ทำให้เนื้องอกถูกกำจัดไปได้เร็ว
2. ไม่ต้องผ่าตัด
ไม่มีเลือดออก ไม่มีความเจ็บปวด ไม่มีความเสี่ยง
3. ความเสี่ยงจากอาการอักเสบและผลข้างเคียงมีน้อยลง
4. ภายใต้การควบคุมของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัย
ข้อเสีย
มักจะเกิดผลข้างเคียงตามมามากมาย
*ผมร่วง แผลในปาก ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย
เบื่ออาหาร โลหิตจาง เม็ดเลือดขาวต่ำ
* เสี่ยงต่อการติดเชื้อ เกล็ดเลือดต่ำ ทำให้เลือดออกง่าย
*ผู้ป่วยยังมีโอกาสที่จะกลับมาเป็นมะเร็งใหม่อีกรอบ
เหตุเพราะมีการกระจายของตัวเซลล์มะเร็งไปทั่วร่างกายแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น