บทนำ
ปัจจุบันวิธีการรักษามะเร็งมีความก้าวหน้าอย่างมาก
มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการรักษาอย่างหลากหลาย เช่น การผ่าตัด การฉายรังสี
การให้เคมีบำบัด แต่เทคนิคใหม่ที่กำลังเป็นที่สนใจ
คือ การรักษาโดยใช้คลื่นความถี่วิทยุ Radiofrequency Ablation (RFA) ซึ่งเป็นการใช้เข็มพิเศษที่เป็นขั้วไฟฟ้าและมีระบบควบคุมอุณหภูมิ
สอดผ่านผิวหนังเข้าไปทำลายก้อนมะเร็งภายในอวัยวะต่างๆ ด้วยคลื่น Radiofrequency
Ablation (RFA) โดยอาศัยเครื่องอัลตราซาวด์หรือเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ในการช่วยนำทางและบอกตำแหน่งของเซลล์มะเร็ง
อย่างไรก็ตามการรักษาด้วยวิธีนี้ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป
ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของผู้ป่วยแต่ละราย
ข้อบ่งชี้
การรักษาด้วยวิธีนี้เหมาะกับผู้ป่วยมะเร็งตับ มะเร็งปอด และมะเร็งเต้านม ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดแล้วกลับมาเป็นมะเร็งใหม่ หรือไม่สามารถรับการผ่าตัดได้ จะได้ผลดีในก้อนมะเร็งที่มีขนาดไม่เกิน 5 cm และจำนวนก้อนไม่เกิน
3 ก้อน สามารถทำให้ก้อนเนื้อเล็กลงและเจริญเติบโตช้า
และตำแหน่งของก้อนมะเร็งต้องไม่อยู่ในที่ที่จะเกิดอันตรายจากความร้อนสู่อวัยวะใกล้เคียง
ขั้นตอนการตรวจ
ขั้นแรกจะนำผู้ป่วยไปยังห้องอัลตราซาวน์หรือห้องเอกซเรย์ โดยแพทย์จะเป็นผู้เลือกใช้เครื่องมือในการนำทางเพื่อสอดเข็มเข้าไปในตำแหน่งที่ต้องการ จากนั้นแพทย์จะฉีดยาชาเฉพาะที่และทำการสอดเข็มผ่านผิวหนังเพื่อเข้าไปยังตำแหน่งเซลล์มะเร็งที่ต้องการโดยมองเห็นภาพเข็มที่สอดใส่ไปในอวัยวะอย่างชัดเจนผ่านทางจอภาพ ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าตรงตามตำแหน่งที่ต้องการ เมื่อเข็มเข้าไปถึงตำแหน่งที่ต้องการแล้ว ก็จะปล่อยพลังงาน Radiofrequency Ablation (RFA) ผ่านเข็มเข้าสู่เซลล์มะเร็ง ซึ่งจะทำให้เกิดความร้อนไปทำลายเซลล์มะเร็ง ใช้เวลาประมาณ 20-40 นาที
ขึ้นอยู่กับขนาดและจำนวนของเซลล์มะเร็งก้อนนั้น หลังจากตรวจเสร็จผู้ป่วยจะมีแผลเล็กน้อย
และปิดทับด้วยผ้าพันแผล
ข้อดี
1.
ผลการรักษาได้ผลดีคล้ายกับการผ่าตัด มีความปลอดภัยสูง ไม่ต้องเสี่ยงต่อการวางยาสลบ
ข้อเสีย
1. ไม่ค่อยได้ผลดีในผู้ที่มีก้อนมะเร็งขนาดใหญ่
2. มีข้อจำกัดหลายอย่าง
3. ค่าใช้จ่ายในการรักษาสูง
วิธีรักษามะเร็งด้วย RADIOFREQUENCY ABLATION (RFA)
อ้างอิง
ชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็ง. (2555). การรักษามะเร็งด้วยคลื่นความถี่สูง Radiofrequency Ablation (RFA).
สืบค้นจาก http://www.siamca.com/knowledge-id314.html
ประเสริฐ
เลิศสงวนสินชัย. (2558). รักษาโรคมะเร็งด้วยวิธีที่ไม่ได้มาตรฐานเสียโอกาสเสียทั้งเงินและอันตรายต่อชีวิต.
สืบค้นจาก http://www.thastro.org/index.php/2/63-2015-03-17-02-37-19
นิศากร กิจสวัสดิ์. (2553). RFA:Radiofrequency Ablation มะเร็งตับ. สืบค้นจาก
https://www.facebook.com/messages/nuchkhun.sone
ภาครังสีวิทยา คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล. (2552). การรักษาผู้ป่วยมะเร็งตับโดยการจี้ด้วยคลื่นความถี่วิทยุ Radio
Frequency Ablation. สืบค้นจาก http://www.si.mahidol.ac.th/th/department/radiology/diagRadiology/RFA.html
American Medical Center. (2012). Radio Frequency Ablation of Liver Tumor. สืบค้นจาก
https://www.youtube.com/watch?v=8Xu0mxkLSzE
ภาครังสีวิทยา คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล. (2552). การรักษาผู้ป่วยมะเร็งตับโดยการจี้ด้วยคลื่นความถี่วิทยุ Radio
Frequency Ablation. สืบค้นจาก http://www.si.mahidol.ac.th/th/department/radiology/diagRadiology/RFA.html
ศูนย์รังสีวิทยา โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต. (2559). ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับรังสีวิทยา. สืบค้นจาก
http://www.phukethospital.com/Thai/Health-Information/X-ray-Radiofrequency-Ablation.phpAmerican Medical Center. (2012). Radio Frequency Ablation of Liver Tumor. สืบค้นจาก
จัดทำโดย
นางสาวสุภานาถ วงสลี
นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะพยาบาลศาสตร์แมคคอร์มิค มหาวิทยาลัยพายัพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น