Magnetic
resonance imaging (MRI)
การตรวจเอกซเรย์ด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
เครื่อง MRI
เป็นเทคโนโลยีทันสมัยและมีราคาแพง
ในปัจจุบันมีการนำมาใช้อย่างแพร่หลาย เนื่องจากให้ผลการตรวจวินิจฉัยที่มีความถูกต้องและแม่นยำสูง
เนื่องจากให้ความแตกต่างของเนื้อเยื่อได้ดี ทำได้หลายระนาบ
สามารถใช้ตรวจได้ทุกระบบของร่างกาย และการตรวจ MRI จะดีกว่าเมื่อเทียบกับการตรวจด้วยเอกซเรย์คอมพิวเตอร์
ความหมายของเครื่องตรวจเอกซเรย์ด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
การตรวจร่างกายโดยการสร้างภาพเหมือนจริงของส่วนต่างๆของร่างกาย
โดยใช้สนามแม่เหล็กความเข้มสูง และคลื่นความถี่ในย่านความถี่วิทยุ
(Radiofrequency) ด้วยการส่งคลื่นความถี่เข้าสู่ร่างกาย
และรับคลื่นสะท้อนกลับ นำมาประมวลผลและสร้างภาพด้วยคอมพิวเตอร์
ให้รายละเอียดและความคมชัดเสมือน
ประเภทของเครื่องตรวจเอกซเรย์ด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
1.
การตรวจสมอง
ไขสันหลังและเส้นประสาทในร่างกาย เช่น ภาวะสมองขาดเลือด
และความผิดปกติบริเวณก้านสมอง
2.
การตรวจกระดูกสันหลังและระบบกล้ามเนื้อและข้อ
เช่น หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทหรือการบาดเจ็บต่อเส้นเอ็นบริเวณข้อต่างๆ
3.
การตรวจหลอดเลือดของอวัยวะต่างๆ
เช่น ความผิดปกติของหลอดเลือดสมองหรือ การตีบตันของหลอดเลือดไต
4.
การตรวจช่องท้อง
ท่อทางเดินน้ำดี และถุงน้ำดี เช่น นิ่วในทางเดินน้ำดี เนื้องอก
หรือมะเร็งในท่อน้ำดี
การทำงานของเครื่อง MRI
ขั้นตอนการตรวจ
1.
หลังจากการเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดเพื่อที่พร้อมสำหรับการตรวจ
ผู้รับการตรวจจะได้รับการพาเข้าสู่ห้องตรวจ
2.
ผู้รับการตรวจจะนอนบนเตียงตรวจ
และมีเครื่องจับสัญญาณคลื่นแม่เหล็กมาวางบนร่างกาย
3.
ผู้รับการตรวจนอนสบายๆนิ่งๆบนเตียงรวจ
และทำตามเสียงที่บอก
4.
ตัวผู้ตรวจจะเคลื่อนไปยังศูนย์กลางของแม่เหล็ก
ข้อดี
1.
สามารถตรวจวินิจฉัยการแข็งตัวของเนื้อเยื่อที่ซับซ้อน
(multiple
sclerosis) ได้
2.
สามารถตรวจวินิจฉัยการเติบโตของเนื้อเยื่อ
(tumors)ของต่อมใต้สมองและสมอง
3.
สามารถตรวจวินิจฉัยการติดเชื้อในสมอง
กระดูกสันหลังหรือข้อต่อ (joint)
4.
สามารถตรวจวินิจฉัยการฉีกขาดของเส้นเอ็น(torn
ligament) ของข้อมือ หัวเข่าและข้อเท้า
5.
สามารถตรวจวินิจฉัยการได้รับบาดเจ็บของหัวไหล่(shoulder
injeries)
6.
วิเคราะห์เนื้อเยื่อภายในร่างกาย
7.
วิเคราะห์การเติบโตของกระดูก
cyste
ตุ่ม (bulging) หรือส่วนที่ผิดปกติภายในกระดูกสันหลัง
8.
สามารถตรวจวินิจฉัยโรคที่เริ่มเป็นในขั้นแรกได้
ข้อเสีย
1.
ไม่สามารถใช้กับคนที่มีร่างกายใหญ่มากๆได้
2.
คนที่เป็นโรคขี้กลัวเมื่อเครื่องเริ่มทำงานทำให้เกิดความลำบากใจไ้ด้
3.
ในขณะที่เครื่องกำลัง
scan
จะมีเสียงดัง ผู้ป่วยจะต้องอุดหูด้วย earplugs
4.
เวลาที่ใช้ scan
20-90 นาทีหรือมากกว่านี้ถ้าเราเคลื่อนไหวจะทำให้ได้ภาพที่ได้ไม่ชัดเจนต้องทำการทดสอบใหม่
5.
ถ้าอุปกรณ์ของเครื่องที่เกี่ยวข้องกับ
scan
หลวมหรือชำรุดภาพที่ได้จะผิดเพี้ยนไป
6.
MRI มีราคาแพงมากๆดังนั้นการทดสอบจึงแพงตามไปด้วย
แหล่งอ้างอิง
กลุ่มงานรังสีวิทยา โรงพยาบาลกลาง. (2559, 3 10). Magnetic Resonance Imaging. Retrieved from
http://www.klanghospital.go.th/index.php/component/content/article/38-2009-06-04-05-11-47/185-magaetic-resonance-imaging-mri.html
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี. (2559, 3 10). การตรวจด้วยเครื่องสร้างภาพด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้า. Retrieved from http://aimc.mahidol.ac.th/mrith.html#
นิพนธ์ เด็นหมัด. (2559, 3 10).
เครื่องวินิจฉัยโรคชนิด Magnetic Resonance Imaging. Retrieved from http://www.mne.eng.psu.ac.th/knowledge/student/s4410195/index.htm
ประชาชื่นอิมเมจจิ้งกรุ๊ป. (2559, 3 10). ความเป็นมาของ MRI.
Retrieved from
http://www.mrithailand.com/index.php?modules=article&parent_id=3&id=13
จัดทำโดย
นางสาวอัจฉราภรณ์ นาวิก
รหัสนักศึกษา 5701211054
Section B เลขที่ 47
เนื้อหาข้อมูลใช้ภาษาเข้าใจง่ายค่ะ
ตอบลบเนื้อหาเข้าใจง่ายค่ะ
ตอบลบเนื้อหาน่าสนใจและเข้าใจง่ายคะ
ตอบลบ