วันพฤหัสบดีที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2559

คลื่นกระแทกสลายนิ่ว

คลื่นกระแทกสลายนิ่ว

 ที่มา 

      ในอดีตการรักษานิ่วจะมีทางเลือกเดียวคือ การผ่าตัด ซึ่งทำให้เกิดแผลเป็นที่ผิวหนังขนาดใหญ่ แต่ด้วยวิวัฒนาการความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีจึงมีมิติใหม่ในการรักษานิ่วโดยใช้วิวัฒนาการใหม่ในการสลายนิ่ว นั้นก็คือ ESWL (Extracorporeal Shock Wave Lithotripsy) ซึ่งเป็นเครื่องมือชนิดพิเศษที่มีการนำคลื่นเสียงความถี่สูงกระแทกก้อนนิ่วให้แตกเป็นผงหรือเม็ดเล็กๆ แล้วขับออกจากร่างกายโดยระบบทางเดินของปัสสาวะ ผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บปวดน้อยกว่าการผ่าตัด และไม่ต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลนานๆ 


การสลายนิ่วใช้เวลาครั้งละประมาณ 60 นาที ไม่ต้องดมยาสลบ ไม่มีบาดแผล ส่วนใหญ่นิ่วจะถูกสลายหมด 1-2 ครั้ง แพทย์จะนัดเอกซเรย์หลังจากการสลายนิ่วประมาณ 2-4 สัปดาห์ หลังการสลายนิ่วครั้งแรก ถ้านิ่วยังเหลือค้าง แพทย์จะทำการสลายนิ่วต่อ

ข้อสังเกต ผลเอกซเรย์หลังการสลายนิ่วครั้งแรกหรือครั้งที่ หากไม่พบการเปลี่ยนแปลงจากการสลายนิ่ว แพทย์จะพิจารณาการรักษาด้วยวิธีอื่น เช่น การเจาะ (percutaneous nephrolithotomy) หรือการส่องกล้อง (ureteroscopy) ทั้งนี้การสลายนิ่วทั้งหมดไม่ควรเกิน 3-4 ครั้งต่อนิ่วที่เกิดขึ้นนั้นๆ


  องค์ประกอบของเครื่องสลายนิ่ว 

      1.     X-ray machine
      2.     Lithotripter
      3.     Display (จอแสดงภาพ)
  4.     Couch (เตียงนอน)

หลักการสลายนิ่ว 


ใช้ X-ray machine เพื่อตรวจหาตำแหน่งของนิ่ว เมื่อเจอจะใช้ Lithotripter สัมผัสบริเวณผิวหนังตรงตำแหน่งของไตซึ่งจะใช้พลังงาน shock wave จากภายนอกร่างกายส่งไปกระแทกนิ่วที่แข็ง ทำให้นิ่วที่แข็งเกิดการแตกตัว เป็นเศษนิ่วเล็กๆ และไหลหลุดออกมาเองทางท่อไต


การเตรียมตัวก่อนการสลายนิ่ว

    1.     ควรนอนพักผ่อนให้เพียงพอในคืนก่อนมาสลายนิ่ว
    2.     ยาประจำตัวทุกชนิด เช่น ยาลดความดัน ยาเบาหวาน ให้รับประทานยาตามปกติ เว้นแต่ยามีฤทธิ์ห้ามการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน หรือ วาฟาริน ซึ่งต้องงดก่อนหน้าการสลายนิ่วอย่างน้อย 1 สัปดาห์ หรือตามคำสั่งแพทย์ และ ควรแจ้งประวัติการแพ้ยาต่างๆ
    3.     ไม่ต้องงดน้ำ งดอาหาร แต่ไม่ควรรับประทานมากจนอิ่มเกินไป (เพราะอาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียนได้)

การปฏิบัติตัวหลังการสลายนิ่ว

    1.     ดื่มน้ำให้มากๆ ประมาณ 3 ลิตรต่อวัน เพื่อขับนิ่วที่แตกออกมากับปัสสาวะที่ใสขึ้น และป้องกันการเกิดนิ่วใหม่ (ในกรณีที่มีโรคประจำตัวที่มีข้อห้ามในการดื่มน้ำควรปรึกษาแพทย์)
    2.     รับประทานยาตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด
    3.     อาการผิดปกติที่ต้องมาพบแพทย์ก่อนวันนัด คือ มีไข้สูงหนาวสั่น ปัสสาวะเป็นเลือดสดแดงเข้มตลอด หรือน้ำปัสสาวะหากมีลิ่มเลือดหรือแดจางเกินกว่า 1 สัปดาห์ ปวดปัสสาวะแต่ปัสสาวะไม่ออก ปวดท้องหรือปวดหลังมาก และไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยยาแก้ปวดทั่วไป ให้มาพบแพทย์
    4.     มารับการตรวจติดตามและเอกซเรย์ตามนัด เพื่อประเมินนิ่วเพราะอาจจะต้องสลายนิ่วซ้ำ ทั้งนี้เพื่อให้นิ่วสลายหมด อาจจะต้องทำ 1-3 ครั้ง แต่ละครั้งห่างประมาณ 1-3 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับขนาดและตำแหน่งของนิ่ว หากการสลายนิ่วไม่ประสบผลสำเร็จ อาจจะต้องปรับเปลี่ยนวิธีการรักษาอื่นแทน ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ชี้แจงให้ทราบ

ผู้ป่วยโรคนิ่วที่สามารถรักษาได้ด้วยการสลายนิ่ว ควรมีลักษณะดังนี้  
1. นิ่วไม่ควรมีขนาดโตเกินไป โดยนิ่วในไตไม่ควรโตเกิน 2.5 ซ.ม. นิ่วในท่อไตไม่ควรโตเกิน 1-1.5 ซ.ม.
2. นิ่วไม่ควรเป็นชนิดแคลเซียมออกซาเลตโนโนไฮเดรต หรือนิ่วซีสตีน เพราะไม่ตอบสนองกับการรักษา
3. ไม่มีการอุดตันของทางเดินปัสสาวะในส่วนที่อยู่ต่ำกว่าก้อนนิ่ว

 ข้อห้ามการใช้เครื่องสลายนิ่ว 

   1.     ผู้ป่วยที่กำลังตั้งครรภ์
   2.     ผู้ป่วยที่มีความดันเลือดที่ไม่คงที่หรือควบคุมไม่ได้
   3.     ผู้ป่วยที่มีการอักเสบของทางเดินปัสสาวะที่ยังควบคุมไม่ได้
   4.     ผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด หรือได้รับยาต้านการแข็งตัวของเลือด
   5.     ผู้ป่วยมีเส้นเลือดโป่งพองในช่องท้อง

 ข้อดี 

  • รักษานิ่วได้ทั้งในไตและท่อไต
  • ใช้สลายนิ่วขนาดไม่เกิน 2 เซนติเมตร
  • ไม่ต้องผ่าตัดและไม่มีรอยแผลเป็น
  • ไม่เจ็บปวดเหมือนการผ่าตัดทั่วไป 
  • ส่วนมากไม่จำเป็นต้องใช้ยาสลบ
  • ใช้เวลารักษาสั้น ระยะเวลารักษาตัวในโรงพยาบาล 1-3 วันหรืออาจกลับบ้านได้ในวันเดียว
  • สามารถทำการรักษาซ้ำหลายครั้ง โดยไม่มีอันตรายต่อสุขภาพ
  • เหมาะกับผู้ป่วยที่เคยได้รับการผ่าตัด มาแล้วหรือโรคที่ต้องเสี่ยงต่อการผ่าตัด


 ข้อเสีย 

  • ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง



เอกสารอ้างอิง

   vบริษัทในเครือสีมาเฮลธ์แคร์. (ม...). รักษาก้อนนิ่วด้วยเครื่องสลายนิ่ว. สืบค้นเมื่อ 22 มีนาคม, 2559, จาก  http://www.simaxray.com/Check-health10.php
  vภาณุ อดกลั้น. (มปป.). การพยาบาลผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยการสลายนิ่ว (ESWL). สืบค้นเมื่อ 22 มีนาคม, 2559, จาก http://www.bcnu.ac.th/bcnu
  vวีรพัฒน์ สุวรรณธรรมา. (2549). การสลายนิ่ว. สืบค้นเมื่อ 22 มีนาคม, 2559, จาก https://www.doctor.or.th/clinic/detail/8286
  vหน่วยศัลยศาสตร์ระบบปัสสาวะ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์. (ม..ป.). การสลายนิ่วด้วยคลื่นกระแทก (ESWL : Extracorporeal Shock Wave Lithotripsy). สืบค้นเมื่อ 22 มีนาคม, 2559, จาก http://www.urochula.com/info/surgery-info/139
      v โรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊คเชียงราย. (ม..ป.). เครื่องสลายนิ่ว. สืบค้นเมื่อ 22 มีนาคม, 2559, จาก http://overbrook-hospital.com/index.php?option=com_content&view=article&id=283:--eswl&catid=71:service


โดย เบญจวรรณ   แก้วเรือน 5701210125 Sec A

1 ความคิดเห็น:

  1. Hiv disease for the last 3 years and having hard to eat and cough are nightmares,especially the first year. At this stage, the immune system is severely weakened, and the risk of contracting opportunistic infections is much greater. However, not everyone with HIV will go on to develop AIDS. The earlier you receive treatment, the better your outcome will be.I started taking ARV to avoid early death but I had faith in God that i would be healed someday.As a Hiv patient we are advise to be taking antiretroviral treatments to reduce our chance of transmitting the virus to others , few weeks ago i came on search on the internet if i could get any information on Hiv treatment with herbal medicine, on my search i saw a testimony of someone who has been healed from Hiv her name was Achima Abelard and other Herpes Virus patient Tasha Moore also giving testimony about this same man,Called Dr Itua Herbal treatment.I was moved by the testimony and i contacted him by his Email.drituaherbalcenter@gmail.com/ www.drituaherbalcenter.com. We chatted and he send me a bottle of herbal medicine I drank it as he instructed me to.After drinking it he ask me to go for a test that how i ended my suffering life of Hiv patent,I'm cured and free of Arv Pills.I'm forever grateful to him Doctor Itua Herbal Treatment..He assured me he can cure the following disease..Hiv,Cancer,Herpes Virus,Hpv,Pile,Weak Erection,Lyme Disease,Epilepsy,Glaucoma.,Brain Tumor,psoriasis, Cataracts,Macular degeneration,Cardiovascular disease,Chronic Diarrhea,Lung disease.Enlarged prostate,Osteoporosis.Alzheimer's disease
    ,Diabetes,Fibroid.

    ตอบลบ